5 ทริคล้างห้องน้ำ & การใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำให้ยาแนวไม่ร่อน

เคล็ดลับการล้างห้องน้ำ

5 เคล็ด(ไม่)ลับการล้างห้องน้ำ & ทริคการใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ

ใครชอบล้างห้องน้ำบ้างยกมือขึ้น!

หากพูดถึงงานบ้านที่ใคร ๆ ต้องร้องยี้ มั่นใจได้ทันทีว่าหนึ่งในนั้นต้องมี ‘งานล้างห้องน้ำ’ รวมอยู่ด้วยแน่นอน เพราะไม่เพียงแต่จะมีคราบหนักที่ขัดออกได้ยากและใช้แรงมากกว่างานบ้านอื่น ๆ น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำยังมักมาพร้อมกับกลิ่นฉุนที่แสนจะเวียนหัว แถมหากล้างโดยไม่ระวังให้ดี ยาแนวตามกระเบื้องก็อาจหลุดร่อน และทำให้น้ำซึมลงพื้นได้จนสร้างความเสียหายในอนาคตอีกด้วย แล้วจะทำอย่างไรให้งานหินอย่างการล้างห้องน้ำกลายมาเป็นงานบ้านที่มีความสุขและทำได้ง่าย เดี๋ยววันนี้แม่บ้านมือโปรจะมาบอกเคล็ดลับให้เอง!

เคล็ดลับที่ 1 : เตรียมอุปกรณ์และวอร์มอัพห้องน้ำให้พร้อมทำความสะอาด

เพราะการเริ่มต้นที่ถูกต้อง ทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เช่นเดียวกับการทำงานบ้านอย่างการล้างห้องน้ำ ก็ต้องเริ่มต้นอย่างถูกวิธีด้วยเช่นกัน ซึ่งการล้างห้องน้ำสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ จากการเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม โดยอุปกรณ์สำคัญสำหรับการล้างห้องน้ำนั้นจะประกอบไปด้วย

  1. ถุงมือยาง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและน้ำยาทำความสะอาด
  2. น้ำยาล้างห้องน้ำชนิดปลอดสารพิษ เพื่อความปลอดภัยของร่างกาย และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยลดความเสียหายที่ยาแนวกระเบื้องจากการขัดห้องน้ำได้อีกด้วย
  3. แปรงขัดพื้น
  4. ผ้าไมโครไฟเบอร์
  5. ที่รีดน้ำกระจก
  6. แปรงขัดสุขภัณฑ์
  7. แปรงสีฟันเก่า
  8. กะละมัง
  9. น้ำยาเช็ดกระจก
  10. น้ำยาเช็ดทำความสะอาดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ

และเมื่อเตรียมอาวุธเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ลุยล้างห้องน้ำกันได้เลย! แต่ก่อนที่จะเทผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำใด ๆ ไปที่พื้นหรือจุดต่าง ๆ สิ่งที่พ่อบ้านและแม่บ้านทุกคนต้องทำเป็นสิ่งแรก คือ การใช้น้ำเปล่าทำความสะอาดคราบฝุ่นที่เกาะตามพื้น ผนัง และสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นรอให้น้ำหมาดประมาณ 5 นาที

รู้หรือไม่?

การทำความสะอาดคราบฝุ่นหรือคราบสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ตามพื้นผิวในห้องน้ำก่อนลงมือล้างห้องน้ำไม่เพียงแต่จะทำให้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่การล้างน้ำสะอาดก่อนลงมือล้างห้องน้ำจริงยังช่วยให้คราบที่ฝังลึกบางชนิดอ่อนตัวลงและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

เคล็ดลับที่ 2 : เริ่มทำความสะอาดหัวฝักบัวและหัวก๊อกก่อน

และเมื่อครบ 5 นาทีแล้ว สิ่งที่ต้องทำในขั้นตอนแรกสุดก็คือ ให้เริ่มทำความสะอาดคราบตะกรันที่อยู่บนหัวฝักบัวและก๊อกน้ำกันก่อน เพราะถ้าหากเราเริ่มต้นล้างพื้นห้องน้ำก่อน คราบสกปรกจากฝักบัวก็จะไหลลงพื้นและอาจฝังตัวไปยังพื้นห้องน้ำกลายเป็นคราบฝังแน่นที่ต้องเสียเวลาล้างหลาย ๆ รอบได้

โดยการทำความสะอาดตะกรันนั้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่จะถนอมหัวฝักบัวให้สามารถใช้งานได้ยาวนานนั้นสามารถทำได้โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. ใช้ไม้จิ้มฟันค่อย ๆ ทะลวงรูน้ำที่หัวฝักบัวและก๊อก
  2. ผสมเบกกิ้งโซดา ⅓ ถ้วยตวงเข้ากับน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง จากนั้นแช่ไว้ประมาณ 15 – 20 นาที หรือหากฝักบัวหรือก๊อกอุดตันมากก็สามารถแช่ได้นานถึง 2 – 3 ชั่วโมง
  3. เมื่อครบเวลาแล้ว ให้เปิดน้ำออกจากฝักบัวและก๊อกเพื่อให้คราบตะกรันหลุดออกมา และค่อย ๆ ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดคราบน้ำที่หัวฝักบัวเพื่อป้องกันไม่ให้คราบตะกรันฝังที่หัวฝักบัวและก๊อก

เคล็ดลับที่ 3 : เคลียร์ชักโครกให้เกลี้ยง!

สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านหลาย ๆ คนแล้ว การทำความสะอาดชักโครกนั้นถือเป็นอีกหนึ่งงานหินเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะอัดแน่นไปด้วยสารพัดเชื้อโรคแล้ว ชักโครกยังเป็นอีกหนึ่งสุขภัณฑ์ที่ทำความสะอาดเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกไม่สะอาด แถมกลิ่นเหม็นก็หายยากอีกด้วย

แต่สำหรับในวันนี้ การทำความสะอาดชักโครกอาจจะง่ายกว่าที่คิด โดยทุกคนสามารถเริ่มทำความสะอาดได้โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. กดชักโครกหรือราดน้ำเปล่าลงไปที่ชักโครก 1 ครั้ง
  2. รอน้ำให้หมาดสัก 3 – 5 นาที จากนั้นจึงค่อย ๆ ราดน้ำยาล้างห้องน้ำชนิดปลอดสารพิษ หรือน้ำยาล้างชักโครกโดยเฉพาะลงไป และทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
  3. เมื่อครบเวลาแล้ว ให้ใช้แปรงสุขภัณฑ์ค่อย ๆ ขัดตามด้านนอกของชักโครกให้เรียบร้อย
  4. กลับเข้ามาขัดซอกหลืบของชักโครกให้สะอาดก่อน จากนั้นจึงค่อย ๆ ขัดที่ตรงกลางให้สะอาด และระวังอย่าขัดแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้พื้นผิวชักโครกเสียหายและทำให้เชื้อโรคเข้าไปอาศัยอยู่จนส่งกลิ่นเหม็น และมีคราบเหลืองตามมาได้
  5. ล้างน้ำจากด้านนอกให้สะอาด จากนั้นล้างน้ำบริเวณซอกมุมต่าง ๆ แล้วสุดท้ายจึงกดชักโครกทิ้ง 2 – 3 ครั้ง เพียงเท่านี้ชักโครกก็จะสะอาดเหมือนใหม่แล้ว

เคล็ดลับที่ 4 : เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำให้เหมาะกับคราบ

เมื่อทำความสะอาดสุขภัณฑ์ทั้ง 3 จนเสร็จเรียบร้อย ทีนี้ก็ถึงเวลาได้ลุยล้างพื้นและผนังห้องน้ำกันจริง ๆ แล้ว โดยการทำความสะอาดพื้นและผนังของห้องน้ำนั้นไม่ได้เริ่มจากการเทน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำลงไปตรง ๆ ที่พื้นผิว แต่พ่อบ้านและแม่บ้านทุกคนต้องเริ่มจากการดูประเภทคราบต่าง ๆ ก่อน จากนั้นจึงค่อยลงมือเลือกน้ำยาทำความสะอาดให้เหมาะสมกับคราบ เพราะหากลุยเทน้ำยาล้างห้องน้ำไปอย่างเดียว ไม่แน่ว่าพื้นผิวและยาแนวต่าง ๆ ก็อาจหลุดร่อนและเสียหายได้ในอนาคต โดยคราบต่าง ๆ ที่มักเกิดขึ้นในห้องน้ำนั้นจะประกอบไปด้วย

  • คราบเหลือง

คราบเหลืองตามพื้นห้องน้ำและผนัง เกิดจากคราบไขมันจากสบู่และคราบสิ่งสกปรกจากร่างกายของเรา โดยหากเกิดคราบนี้ที่พื้นห้องน้ำหรือผนังก็สามารถใช้น้ำยาล้างห้องน้ำทำความสะอาดได้ปกติ แต่อย่าทิ้งไว้นานเกิน 5 นาที เพราะจะทำให้น้ำยาเริ่มกัดเซาะยาแนวตามรอยต่อกระเบื้องได้

  • คราบราดำ

คราบราดำ รวมถึงคราบตะไคร่น้ำมักเกิดขึ้นในห้องน้ำที่อับชื้น รวมถึงห้องน้ำที่ระบบระบายน้ำไม่ดีจนมีน้ำขัง อีกทั้งคราบราดำที่ผนังยังเกิดจากการลืมทำความสะอาดผนังหลังใช้งานเสร็จอีกด้วย โดยการทำความสะอาดคราบเหล่านี้สามารถทำได้โดยการเทน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำลงไป จากนั้นรอ 3 – 5 นาทีและค่อย ๆ ให้แปรงสีฟันเก่าขัดตามร่องให้สะอาดนั่นเอง

จากนั้นเมื่อทำความสะอาดคราบทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงค่อยราดน้ำสะอาดทำความสะอาดพื้นและผนังอีกรอบ และเพื่อป้องกันการกลับมาของคราบต่าง ๆ อีกครั้ง

เคล็ดลับที่ 5 : ทำความสะอาดกระจก ก๊อก และสายฝักบัวก่อนจบงาน

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาดห้องน้ำแล้ว โดยในขั้นตอนนี้จะเน้นไปที่การเก็บงานเล็ก ๆ น้อยอย่างการทำความสะอาดกระจก ก๊อกน้ำ และสายฝักบัวนั่นเอง 

มาเริ่มที่การทำความสะอาดกระจกกันก่อน พ่อบ้านแม่บ้านทุกคนสามารถทำความสะอาดกระจกได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากการล้างทำความสะอาดและเช็ดคราบที่มาจากการล้างมือ แปรงฟัน ตลอดจนคราบสบู่ที่กระเด็นออกมาขณะอาบน้ำให้เรียบร้อย จากนั้นจึงค่อยใช้น้ำยาเช็ดกระจกคู่กับผ้าแห้งสนิท หรือใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เพื่อเช็ดกระจกให้สะอาด

เมื่อทำความสะอาดกระจกจนเงาวับแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการทำความสะอาดเครื่องสุขภัณฑ์อย่างก๊อกและสายฝักบัวให้กลับมาเงางามเหมือนใหม่ และไม่มีคราบน้ำหรือคราบขุ่น ๆ ติด โดยการทำความสะอาดนั้นก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการใช้น้ำยาขัดทำความสะอาดอเนกประสงค์ทั่วไป หรือใช้น้ำส้มสายชูชุบหมาด ๆ แล้วขัดคราบออกให้หมด เพียงเท่านี้ก๊อกและสายฝักบัวก็กลับมาเงางามเหมือนใหม่ได้แล้ว

เป็นอย่างไรกันบ้าง? บอกเลยว่าเคล็ดลับการทำความสะอาดที่นำมาฝากนี้สามารถทำตามได้ง่าย ๆ แถมยังช่วยถนอมห้องน้ำไปในตัวอีกด้วย แต่อย่างไรก็ดีจะเห็นได้ว่าเคล็ดลับการทำความสะอาดที่ถูกต้องนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการเลือกน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำเช่นเดียวกัน 

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด SUPP เราไม่เพียงแต่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำเพื่อช่วยให้พ่อบ้านแม่บ้านใช้ทำความสะอาดทุกคราบสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจดเท่านั้น แต่ทุกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของเรา ยังมาพร้อมกับฉลากเขียวที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม หากพ่อบ้านแม่บ้านคนไหนสนใจอยากลองใช้น้ำยาล้างห้องน้ำแบบปลอดสารพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่เบอร์ 034-562913 หรือ 080-1595923 ได้เสมอ