แม้จะดูเป็นงานบ้านธรรมดาทั่วไป แต่การล้างห้องน้ำให้สะอาดและปลอดภัยกลับมาพร้อมกับรายละเอียดที่ต้องพิจารณามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำให้เหมาะสมกับพื้นผิวของสุขภัณฑ์และเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่อยู่ในห้องน้ำ
หากไม่ตรวจสอบรายละเอียดการทำความสะอาดห้องน้ำของน้ำยาแต่ละประเภทให้ดี นอกจากจะไม่สามารถทำความสะอาดคราบสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว พื้นผิวของสุขภัณฑ์และเฟอร์นิเจอร์ก็อาจได้รับความเสียหาย ทั้งสารตกค้างจากน้ำยาล้างห้องน้ำยังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ แต่ควรจะเลือกน้ำยาล้างห้องน้ำอย่างไรให้เหมาะสม แม่บ้านมือโปรของเรามีคำตอบ!
ทำไมจึงไม่ควรใช้น้ำยาล้างห้องน้ำกับทุกพื้นผิวในห้องน้ำ?
วิธีการทำความสะอาดห้องน้ำที่หลายบ้านคุ้นชินอาจเป็นการฉีดราดน้ำยาล้างห้องน้ำไปยังพื้นผิวต่าง ๆ ที่มีคราบสกปรกฝังแน่น ไม่ว่าจะเป็นชักโครก อ่างล้างหน้า กระจกกั้นอาบน้ำ ไปจนถึงพื้นแห้งและเปียกของห้องน้ำ จากนั้นเมื่อน้ำยาล้างห้องน้ำออกฤทธิ์ครบ 5-10 นาทีจึงค่อยลงมือใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ขัดทำความสะอาดคราบสกปรก
อย่างไรก็ดี แม้จะสามารถใช้ทำความสะอาดคราบฝังลึกได้หลายแบบ แต่น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำกลับไม่สามารถใช้ได้กับทุกพื้นผิวเหมือนที่หลายคนเข้าใจ เนื่องจากน้ำยาล้างห้องน้ำส่วนใหญ่มักมี “กรดไฮโดรคลอริก” หรือ “กรดเกลือ” เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงเท่านั้น แต่หลังจากทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย องค์ประกอบบางส่วนของกรดไฮโดรคลอริกในน้ำยาล้างห้องน้ำนี้ยังอาจตกค้างอยู่ในบริเวณพื้นผิวที่ทำความสะอาดได้เช่นกัน
การตกค้างของน้ำยาล้างห้องน้ำ หากเราไปสัมผัส นอกจากจะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหน้าและทั่วลำตัวแล้ว สารตกค้างทั้งจากกรดและสารเคมีบางประเภทในน้ำยาล้างห้องน้ำยังกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ พ่อบ้านแม่บ้านทุกคนจึงควรเลือกน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำให้เหมาะสมกับพื้นผิวแต่ละประเภทนั่นเอง
พื้นผิวและสุขภัณฑ์ที่ใช้น้ำยาล้างห้องน้ำได้
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ พ่อบ้านแม่บ้านหลายคนคงสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า หากต้องการทำความสะอาดห้องน้ำควรจะเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำกับพื้นผิวแบบใดถึงจะมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อสุขภาพ แม่บ้านมือโปรขอเริ่มจากพื้นผิวและสุขภัณฑ์ที่สามารถใช้น้ำยาล้างห้องน้ำได้โดยตรงกันก่อน
1. ชักโครก
ชักโครกถือเป็นสุขภัณฑ์ที่สกปรกที่สุดในห้องน้ำ ทั้งยังมีเชื้อโรคและคราบสกปรกหลายประเภทฝังแน่น ไม่ว่าจะเป็นคราบสิ่งปฏิกูลในชักโครก คราบเหลือง คราบน้ำ ไปจนถึงคราบราดำที่บริเวณคอห่าน โดยการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีกรดสูงจะสามารถช่วยขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยกำจัดเชื้อโรคสะสมในชักโครกได้อีกด้วย
แต่ถ้าจะให้ดี แม่บ้านมือโปรขอแนะนำเพิ่มเติมว่า หลังจากใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำแล้ว อย่าลืมเลือกแปรงทำความสะอาดที่มีผิวอ่อนนุ่มในการขัด เพราะหากขนแปรงที่แข็งไปอาจทำให้ผิวชักโครกเป็นรอยและสึกหรอ จนกลายเป็นแหล่งสะสมคราบสกปรกและเชื้อโรคแห่งใหม่ได้
2. พื้นห้องน้ำ
พื้นห้องน้ำเป็นบริเวณที่ต้องรองรับคราบสกปรกจากร่างกาย รวมไปถึงคราบจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป คราบต่าง ๆ เหล่านี้อาจฝังแน่นกลายเป็นคราบราดำตามร่องกระเบื้อง คราบน้ำ ไปจนถึงคราบไขมันที่มีส่วนสำคัญทำให้พื้นห้องน้ำลื่นและเป็นอันตรายต่อการใช้งาน
ด้วยเหตุนี้ การใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีความเป็นกรดร่วมกับแปรงขัดที่มีขนอ่อนนุ่มกำลังพอดีจะช่วยลดการสะสมของคราบสกปรกเหล่านี้ ทั้งยังช่วยลดอันตรายที่เกิดขึ้นจากพื้นห้องน้ำลื่นได้อีกด้วย
3. ผนังห้องน้ำ
เช่นเดียวกับพื้นห้องน้ำ ผนังห้องน้ำเองก็เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่ต้องรองรับคราบสกปรกจากร่างกายและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายเช่นกัน มิหนำซ้ำผนังห้องน้ำยังเป็นตัวสะสมคราบหินปูนจากน้ำที่ทำความสะอาดได้ยากอีกด้วย
ดังนั้น การใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำที่มีความเป็นกรดจะสามารถช่วยลดการสะสมทั้งคราบหินปูน คราบไขมัน ไปจนถึงคราบสกปรกและคราบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ แม่บ้านมือโปรขอแนะนำให้พ่อบ้านแม่บ้านทำความสะอาดบริเวณนี้ให้หมดจด เพราะน้ำจากผนังอาจกระเด็นเข้าสู่ร่างกาย และก่อให้เกิดการระคายเคือง รวมถึงภูมิแพ้สะสมได้เช่นกัน
พื้นผิวและสุขภัณฑ์ที่ไม่ควรใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ
เมื่อมีพื้นผิวและสุขภัณฑ์ที่สามารถใช้น้ำยาล้างห้องน้ำได้ แน่นอนว่าก็ย่อมมีพื้นผิวและสุขภัณฑ์ที่ไม่สามารถใช้ได้เช่นกัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย 3 ส่วน ดังนี้
อ่างล้างหน้า
อ่างล้างหน้าเป็นบริเวณสำหรับการล้างหน้าและแปรงฟัน การใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่กรดสูงอาจทำให้องค์ประกอบบางประเภทของกรดตกค้างอยู่ที่พื้นผิว ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวหน้าและช่องปากได้
แม่บ้านมือโปรขอแนะนำให้ทำความสะอาดอ่างล้างด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำที่ไม่มีกรด หรืออาจเลือกใช้น้ำส้มสายชู หรือเลมอน ผสมเข้ากับเบกกิ้งโซดาและน้ำอุ่นในการขัดคราบสกปรกและทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ แทน
อ่างอาบน้ำ
อ่างอาบน้ำเป็นบริเวณที่ต้องสัมผัสกับผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยตรง อีกทั้งอ่างอาบน้ำหลายประเภทยังมีพื้นผิวเป็นพลาสติก หรืออะคริลิก ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีกรดสูง เนื่องจากอาจทำลายพื้นผิวและทิ้งสิ่งตกค้างเอาไว้ได้
สำหรับบ้านไหนที่มีอ่างอาบน้ำ แม่บ้านมือโปรขอแนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำอุ่นเพื่อทำความสะอาด หรือจะใช้น้ำสบู่อ่อนผสมกับน้ำอุ่น ร่วมกับฟองน้ำนุ่มเพื่อเช็ดทำความสะอาดก็ได้ หากบ้านไหนมีน้ำยาทำความสะอาดแบบ All Purpose หรือ Muti Purpose Cleaner ก็ได้เช่นกัน
ตู้อาบน้ำ
เช่นเดียวกับอ่างอาบน้ำ ตู้อาบน้ำสำเร็จรูปส่วนใหญ่มักทำมาจากพลาสติก หรืออะคริลิก หรือหลายบ้านเองก็อาจมีการใช้กระจกกั้นเป็นตู้อาบน้ำ ซึ่งการใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำที่มีกรดสูงอาจเป็นการทำลายพื้นผิวและทิ้งสิ่งตกค้างเอาไว้รอบ ๆ เช่นกัน
สำหรับบ้านไหนที่กั้นห้องอาบน้ำด้วยกระจก ขอแนะนำให้ทำความสะอาดคราบน้ำหลังอาบน้ำเป็นประจำด้วยอุปกรณ์รีดน้ำ จากนั้นใช้น้ำยาเช็ดกระจกสูตรอ่อนโยนในการทำความสะอาด หรือหากบ้านไหนมีตู้อาบน้ำที่เป็นพลาสติก หรืออะคริลิก ขอแนะนำให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดแบบ All Purpose หรือ Muti Purpose Cleaner แบบเดียวกับอ่างอาบน้ำ หรือจะใช้น้ำส้มสายชู หรือสบู่ขัดทำความสะอาดก็ได้เช่นกัน
ทำความสะอาดห้องน้ำปลอดภัยรอบด้านต้อง SUPP Cleaning
แม้จะเป็นห้องน้ำเหมือนกัน แต่จะเห็นได้ว่า การทำความสะอาดห้องน้ำแต่ละบริเวณจะมีการใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าจะให้การล้างห้องน้ำปลอดภัยต่อทั้งสุขภาพ พื้นผิวห้องน้ำ และสิ่งแวดล้อม แม่บ้านมือโปรขอแนะนำให้เลือกใช้น้ำยาล้างห้องน้ำแบบไม่มีกรดที่มาพร้อมฉลากเขียว เพื่อมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในการทำความสะอาดควบคู่ไปกับการรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย
SUPP Cleaning มาพร้อมกับน้ำยาล้างห้องน้ำแบบฉลากเขียว กลิ่นตะไคร้หอม ปราศจากสารเคมีประเภทกรดไฮโดรคลอริก ไม่ทำลายพื้นผิวและยาแนวทำให้เหมาะสำหรับการทำความสะอาดห้องน้ำที่หลากหลาย มาพร้อมส่วนผสม Surface Coating ช่วยป้องกันราดำและเคลือบพื้นผิวให้ดูเงางามเหมือนใหม่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เบอร์ 034-562913 และ 065-237-9788 ตลอดเวลาทำการ